บล็อกนี้จัดทำขึ้นเพื่อการเรียนการสอน

วันพุธที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2555

ไทยอ่วม! น้ำป่าดินถล่ม ฝนตกหนักทั่วทุกทิศ


(29 ส.ค.) สถานการณ์อุทกภัยทั่วไทยล่าสุดยังคงวิกฤตและเกิดเหตุเพิ่มเติมและซ้ำรอยเติมอีกในหลายพื้นที่ ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ อ่วมระทมทั่วทุกทิศ
สำหรับเมื่อวานนี้ ฝนที่ตกหนักทำให้เกิดดินถล่มลงปิดทับถนนสายแม่มาลัย-ปาย กิโลเมตรที่ 46 บ้านแม่เลา ตำบลป่าแป๋ อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ส่งผลให้ผู้ที่ต้องการเดินทางไปยังอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ไม่สามารถใช้เส้นทางได้ บางส่วนต้องหันไปใช้ถนนสายอมก๋อย-แม่สะเรียงแทน เจ้าหน้าที่ต้องเร่งนำรถแบ็กโฮเข้าตักดินในจุดเกิดเหตุเพื่อเปิดเส้นทาง ส่วนที่ อ.สารภี จ.เชียงใหม่ น้ำจากลำน้ำกวงล้นตลิ่งเข้าท่วมเป็นบริเวณกว้าง ชาวบ้านต้องขนย้ายทรัพย์สินไปไว้บนที่สูง เพื่อความปลอดภัย
เช่นเดียวกับที่ตำบลป่าแดด อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย ที่เกิดดินถล่มทับถนนสายแม่สรวย-ฝาง บริเวณบ้านห้วยสลัก ตำบลป่าแดด เจ้าหน้าที่ต้องนำเครื่องจักรเข้าตักดินนานกว่า 3 ชั่วโมง จึงสามารถเปิดถนนได้ช่องจราจร และมีรายงานดินถล่มปิดทับเส้นทางสายดอยวาวี-บ้านท่อก๊อ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างนำเครื่องจักรเข้าซ่อมแซม
ที่จังหวัดพิษณุโลก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางเข้าตรวจเยี่ยมความคืบหน้าการแก้ปัญหาน้ำท่วม พร้อมให้กำลังใจผู้ประสบอุกภัยในอำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก ที่ยังคงได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วม โดยชาวบ้านบางส่วนได้เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีเร่งพิจารณาก่อสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น เพื่อป้องกันและลดปัญหาน้ำท่วมในระยะยาว
ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมที่จังหวัดพิจิตร น้ำจากแม่น้ำยมที่ยังคงขยายวงกว้างเข้าท่วมพื้นที่ ทำให้ชาวบ้านบางส่วนในบ้านจิกสามร้อย ตำบลบางลาย อำเภอบึงนาราง ซึ่งอยู่ติดแม่น้ำยมต้องขนย้ายทรัพย์สินไปอาศัยนอนริมถนน บางจุดระดับน้ำท่วมสูงกว่า 4 เมตร
ที่ตำบลโผงเผง อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง แม้ระดับน้ำเริ่มทรงตัวหลังเขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท ลดการระบายน้ำลงสู่ท้ายเขื่อน แต่ชาวบ้านที่อำเภอป่าโมกยังคงต้องใช้เรือเป็นพาหนะในการเข้าออกบ้าน เนื่องจากเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ ทำให้ขณะนี้ยังมีบ้านเรือนได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมกว่า 300 ครัวเรือน
ส่วนที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ฝนที่ตกหนักต่อเนื่องส่งผลให้อำเภอกมลาไสย อำเภอร่องคำ และอำเภอยางตลาด มีพื้นที่ทางการเกษตรถูกน้ำท่วมเสียหายรวมแล้วกว่า 35,000 ไร่ ขณะที่เขื่อนลำปาวต้องระบายน้ำวันละ 6 ล้านลูกบากศ์เมตร เพื่อลดปริมาณน้ำในเขื่อนที่ใกล้ถึงจุดวิกฤต
เช่นเดียวกับที่จังหวัดยโสธรที่เป็นพื้นที่รับน้ำมาจากจังหวัดกาฬสินธุ์ ขณะนี้น้ำจากแม่น้ำชีได้เอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมนาข้าวของชาวบ้านในเขตรอบนอกของอำเภอเมืองยโสธรเป็นบริเวณกว้าง บางแห่งน้ำท่วมสูงกว่า 2 เมตร และมีแนวโน้มสูงขึ้นอีก
ขณะที่ถนนกลางเมืองปราจีนบุรี ถูกน้ำท่วมสูงประมาณ 50 เซนติเมตร หลังเกิดฝนตกลงมาอย่างหนัก และน้ำยังไหลเข้าท่วมตัวเมืองปราจีนบุรีด้วย ถนนสุวรรณศร สายกรุงเทพ-อรัญประเทศ ช่วงหลังกิโลเมตรที่ 156-157 ต.บ้านพระ อ.เมืองปราจีนบุรี ถูกน้ำจากเขาใหญ่ไหลหลากลงมาท่วมเป็นระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร
ส่วนที่ อ.ตะกั่วป่า จังหวัดพังงา น้ำป่าไหลหลากพัดเด็กหญิงอายุ 13 ปี และน้องสาวอายุ 10 ปี จมน้ำเสียชีวิต ขณะลงเล่นน้ำหลังบ้าน และระดับน้ำบางจุดยังสูงกว่า 2 เมตร ที่จังหวัดกระบี่ ชาวบ้านต้นหาร ตำบลหน้าเขา อำเภอเขาพนม ต่างพากันอพยพมาอยู่ในที่ในปลอดภัย หลังพบว่า ฝนที่ตกติดต่อกันนาน 2 วัน ทำให้น้ำที่ไหลจากเทือกเขาพนมเบญจามีปริมาณมากขึ้นและเริ่มเปลี่ยนเป็นสีขุ่น ชาวบ้านจึงไม่มั่นใจถึงสถานการณ์ โดยต่างเกรงว่าอาจเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมและดินโคลนถล่มซ้ำรอยเมื่อปลายเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา
ขณะที่ กรมอุตุนิยมวิทยา เตือนประชาชนหลายพื้นที่ให้ระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักและคลื่นลมแรง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังค่อนข้างแรงยังคงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก ขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ก็ยังคงมีกำลังแรง ส่งผลให้ทั่วประเทศยังมีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งต่อไปอีก ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน ควรเพิ่มความระมัดระวังอันตรายจากภาวะฝนตกหนักที่ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในช่วง 1-2 วันนี้ ขณะที่คลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนจะมีคลื่นสูง 2-3 เมตร เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะ 1-2 วันนี้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น